วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กรอบแนวทางการจัดตั้งงบประมาณประจำปี พ.ศ.2553

กรอบแนวทางการจัดตั้งงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2553
งบลงทุนรายการค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง

กรอบวงเงินการจัดตั้งงบประมาณ งบลงทุน รายการค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดกรอบวงเงินการดำเนินการจัดตั้งงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2553 รายการค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง กรอบวงเงินรวมทั้งสิ้น 4,000 ,000,000 บาท ดังนี้
1. จัดตั้งให้สถานศึกษา จำนวน 3,000,000,000 บาท
2. จัดตั้งสำหรับสถานศึกษาประสบภัยธรรมชาติ จำนวน 800,000,000 บาท โดยตั้งไว้ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
3. จัดตั้งงบประมาณสำหรับอาคารเรียนและอาคารประกอบขนาดใหญ่ (งบผูกพัน)ให้สถานศึกษาตามความขาดแคลนและจำเป็น โดยพิจารณาที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 200,000,000 บาท

แนวทางการจัดตั้งงบประมาณ งบลงทุน รายการค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง
ระดับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
1. แต่งตั้งคณะทำงานจัดทำคู่มือการจัดตั้งงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2553 งบลงทุน ค่าครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง
2. ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล ดัชนี ความขาดแคลนและความต้องการงบลงทุนรายการที่ดินและสิ่งก่อสร้างของสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
3. กำหนดเกณฑ์จัดตั้งงบประมาณงบลงทุนรายการที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2553
4. กำหนดกรอบวงเงินจัดตั้งงบประมาณงบลงทุนรายการที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2553 จำแนกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ก่อสร้างอาคารเรียน อาคารประกอบเพิ่มเติม
กลุ่มที่ 2 ก่อสร้างอาคารเรียนทดแทน
กลุ่มที่ 3 ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างอื่น
กลุ่มที่ 4 สร้างสนามกีฬา
5. กำหนดปฏิทินการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับสำนักงบประมาณ
6. แจ้งกรอบวงเงินงบประมาณให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
7. ประมวลผลคำขอตั้งงบประมาณของทุกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
8. จัดทำคำขอตั้งงบประมาณงบลงทุนรายการค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างในภาพรวมของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เสนอคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงบประมาณพิจารณา
ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
1. แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาจัดตั้งงบประมาณงบลงทุนรายการค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นประธาน ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ระดับช่วงชั้น 1–2 , 1–3 , 3–4 ผู้แทนคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องการจัดทำงบประมาณ และหัวหน้ากลุ่มนโยบายและแผน เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อทำหน้าที่จัดตั้งงบประมาณให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
2. การจัดตั้งงบประมาณรายการค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง จำแนกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ก่อสร้างอาคารเรียน อาคารประกอบเพิ่มเติม
กลุ่มที่ 2 ก่อสร้างอาคารเรียนทดแทน
กลุ่มที่ 3 ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างอื่น
กลุ่มที่ 4 สร้างสนามกีฬา
3. ในการจัดตั้งงบประมาณของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้องเป็นไปตามคู่มือและแนวทางที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอาจพิจารณากำหนดรายละเอียด เกณฑ์ ประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมได้ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของแต่ละสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
4. การจัดตั้งงบประมาณของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้จัดตั้งงบประมาณตามกรอบวงเงินงบประมาณ ที่ได้รับแจ้งจัดสรร
5. ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจัดตั้งงบประมาณ งบลงทุนรายการค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง โดยใช้รายการและราคามาตรฐานตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนด
6. ในการจัดตั้งงบประมาณอาคารเรียน อาคารประกอบขนาดใหญ่(งบผูกพัน) ให้เสนอจัดตั้งงบประมาณ ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยไม่กระทบกรอบวงเงินที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้รับแจ้งจัดสรร หากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใดมีความจำเป็นให้เสนอขอได้ไม่เกินสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาละ 1 หลัง พร้อมรายละเอียดประกอบการพิจารณา ตามแบบฟอร์มที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด และเอกสารประกอบการขอ จัดตั้งงบประมาณเพิ่มเติม โดย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษารับรองข้อมูลทุกรายการตามแบบที่กำหนด ดังนี้
6.1 แผนการจัดชั้นเรียนเต็มรูป
6.2 แผนผังอาคารเรียน อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างของสถานศึกษา (Master Plan)
6.3 เหตุผลและความจำเป็นประกอบการพิจารณา
6.4 หนังสือยืนยันว่ามีสถานที่ก่อสร้างเพียงพอและพร้อมในการก่อสร้าง
6.5 ภาพถ่าย สภาพอาคารเรียน อาคารประกอบ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
7. บันทึกข้อมูลคำขอตั้งงบประมาณทุกแบบฟอร์มที่กำหนดลงใน แผ่น CD–ROM ส่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
8. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาควรจัดทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (อาคารและสิ่งก่อสร้าง) ระยะ 3 ปี ของสถานศึกษาในสังกัดเพื่อหาแนวทางในการระดมทรัพยากรจากทุกภาคส่วนได้ เช่น จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน เป็นต้น
ระดับสถานศึกษา
1. ให้คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีส่วนร่วมในการวางแผนกำหนดแนวนโยบายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอาคารและสิ่งก่อสร้างของสถานศึกษา
2. ตรวจสอบ ทบทวนข้อมูลความขาดแคลน จำเป็น ด้านอาคารและสิ่งก่อสร้าง ให้สอดคล้องกับแผนการจัดชั้นเรียน และแนวโน้มการขยายตัวของประชากรวัยเรียนในอนาคต
3. เสนอขอตั้งงบประมาณ อาคารเรียน อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้าง ที่มีความขาดแคลน จำเป็นตามเกณฑ์มาตรฐานสิ่งก่อสร้างส่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
4. กรณีที่ต้องรื้อถอนอาคารเดิม เพื่อก่อสร้างอาคารทดแทนสถานศึกษาต้องเตรียมจัดทำแผนรองรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น

รายละเอียดประกอบการวิเคราะห์สภาพความจำเป็นด้านอาคารเรียน
อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้าง

การวิเคราะห์สภาพความจำเป็นจำแนกเป็น 4 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 ก่อสร้างอาคารเรียน อาคารประกอบเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาความขาดแคลน ให้ดำเนินการ ดังนี้
1. วิเคราะห์ข้อมูลสภาพความขาดแคลนจำเป็น อาคารเรียน อาคารประกอบ และเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลัง
2. พิจารณาจัดตั้งงบประมาณ
2.1 อาคารเรียน จัดตั้งงบประมาณตามลำดับความขาดแคลนโดยพิจารณาความขาดแคลนห้องเรียนเป็นอันดับแรก
2.2 อาคารประกอบ จัดตั้งงบประมาณตามความขาดแคลนตามเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด และความจำเป็นเร่งด่วน
3. พิจารณาจัดตั้งงบประมาณการก่อสร้าง โดยคำนึงถึงแผนการจัดชั้นเรียนและแนวโน้มการขยายตัวของประชากรวัยเรียนในอนาคตเป็นสำคัญ
กลุ่มที่ 2 ก่อสร้างอาคารเรียนทดแทน ให้พิจารณาเหตุผลความจำเป็น และเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลัง ดังนี้
1. อาคารเรียนที่ชำรุดขั้นวิกฤตอาจเป็นอันตรายต่อนักเรียนหรือผู้ใช้อาคารหรืออาคารชำรุด ส่วนที่เป็นโครงสร้างหลัก เช่น ฐานราก คาน เสา ตอม่อ หลังคา ฯลฯ
2. อาคารที่มีสภาพชำรุดเกินกว่า 50 %
3. อาคารที่มีอายุเกิน 30 ปี และได้รับอนุญาตให้รื้อถอนแล้วแต่ในปัจจุบันใช้เป็นที่จัดการเรียนการสอนอยู่
กลุ่มที่ 3 ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างอื่นให้พิจารณาเหตุผล ความจำเป็นและเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลัง ดังนี้
1. อาคารที่ชำรุดมาก อาจเป็นอันตรายต่อนักเรียนและผู้ใช้อาคาร
2. อาคารที่ปรับปรุงจะต้องใช้งบประมาณไม่เกิน 50 % ของราคาค่าก่อสร้างใหม่ในปัจจุบัน
3. เมื่อได้รับการปรับปรุงแล้ว อาคารจะต้องใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง
4. การจัดตั้งงบประมาณเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างอื่น ในงบลงทุนรายการค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ต้องมีวงเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป
หมายเหตุ สิ่งก่อสร้างอื่น หมายถึง สนามกีฬา รั้ว ถนน รางระบายน้ำ เป็นต้น
กลุ่มที่ 4 สร้างสนามกีฬา
1. พิจารณาจัดตั้งงบประมาณตามความขาดแคลนจำเป็น โดยเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลัง
2. พิจารณาจัดตั้งให้กับโรงเรียนที่ยังไม่มีสนามกีฬาเป็นลำดับแรกโดยเฉพาะโรงเรียนที่จำเป็นต้องใช้สอนตามหลักสูตร
หมายเหตุ สนามกีฬา หมายถึง ลานกีฬาอเนกประสงค์ สนามบาสเก็ตบอล สนามวอลเลย์บอล สนามฟุตบอล สนามตะกร้อ เป็นต้น

เกณฑ์มาตรฐานสิ่งก่อสร้างของโรงเรียน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

สิ่งก่อสร้างของโรงเรียนนับเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่ง เพราะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนการสอน และอำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการศึกษาในระบบโรงเรียนให้บรรลุจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
1. อาคารเรียน หมายถึง อาคารที่ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมการเรียนการสอนทุกกลุ่มวิชาประกอบด้วยห้องเรียนและห้องพิเศษ
- ห้องเรียน หมายถึง ห้องที่ใช้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนทุกรายวิชา
- ห้องพิเศษ หมายถึง ห้องอำนวยความสะดวกในการบริหารและจัดกิจกรรมสนับสนุนการเรียนการสอน เช่น 1. ห้องพักครู 2.ห้องพยาบาล 3. ห้องวิทยาศาสตร์ 4.ห้องคอมพิวเตอร์ ฯลฯ
เกณฑ์การจัดอาคารเรียน 1.ใช้จำนวนนักเรียนเป็นเกณฑ์ 2. ใช้แผนการจัดชั้นเรียน
โดยมีเกณฑ์การจัดสรร ดังนี้
1.โรงเรียนที่มีนักเรียน 120 คนลงมา ใช้เกณฑ์ควรมีห้องเรียน 8 ห้อง และห้องพิเศษ 3 ห้อง รวมควรมี 11 ห้อง
2. โรงเรียนที่มีนักเรียน 121 – 300 คน ใช้เกณฑ์ควรมีห้องเรียน 8 ห้อง และห้องพิเศษ 4 ห้อง รวมควรมี 12 ห้อง (ยกเว้น โรงเรียนขยายโอกาส และระดับมัธยมศึกษา ให้ใช้เกณฑ์ตามตาราง หน้า 2 )
3. โรงเรียนที่มีนักเรียน 301 คนขึ้นไป ใช้เกณฑ์ควรมีห้องเรียนตามแผนจัดชั้นเรียน ดังนี้

2. อาคารประกอบ หมายถึง อาคารที่ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมการเรียนการสอน กลุ่มวิชาต่าง ๆ หรือจัดกิจกรรมอาหารกลางวัน หรือใช้สำหรับเป็นที่ประชุมนักเรียน หรือกิจกรรมอื่น ๆ
2.1 อาคารอเนกประสงค์ , หอประชุม, โรงอาหาร มีเกณฑ์ดังนี้
1. แผนจัดชั้นเรียน 3 -23 ห้องเรียน ควรมี อาคารอเนกประสงค์ หอประชุม, โรงอาหาร รวม 1 หลัง
2. แผนจัดชั้นเรียน 24 ห้องเรียนขึ้นไป ควรมี อาคารอเนกประสงค์ หอประชุม โรงเรียนอาหาร รวม 2 หลัง
2.2 อาคารฝึกงาน ใช้แผนจัดชั้นเรียนเป็นเกณฑ์ดังนี้

แผนจัดชั้นเรียน ควรมี
3 – 8 ห้องเรียน 1 หน่วย
9 – 14 ห้องเรียน 2 หน่วย
15 – 26 ห้องเรียน 4 หน่วย
27 – 44 ห้องเรียน 6 หน่วย
45 ห้องเรียนขึ้นไป 8 หน่วย
2.3 ส้วม
ส้วม หมายถึง อาคารที่ใช้เป็นสถานที่สำหรับอุจจาระ หรือปัสสาวะของนักเรียน โดยใช้แผนจัด ชั้นเรียนเป็นเกณฑ์ ดังนี้
จำนวนนักเรียน 40 คน ควรมี 1 ที่นั่ง แต่อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 4 ที่นั่ง
2.4 บ้านพักครู หมายถึง อาคารที่สร้างขึ้นเพื่อจัดเป็นสวัสดิการแก่ครูที่ไม่มีบ้านพักอาศัยและภูมิลำเนาอยู่นอกพื้นที่ปฏิบัติการสอน โดยมีลักษณะอาคาร ดังนี้
1. สร้างบ้านพักครูแบบเรือนแถวในหมู่บ้านพักครู หรือในโรงเรียน ที่มีพื้นที่มาก โดยคำนึงถึงการให้บริการที่อยู่ในท้องถิ่นใกล้เคียงได้เป็นอันดับแรก
2. สร้างบ้านพักครูแบบบ้านพักเดี่ยว เฉพาะโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลหาบ้านเช่าไม่ได้โดยใช้เกณฑ์ตามความต้องการจำเป็นของแต่ละสถานศึกษา
2.5 บ้านพักภารโรง ใช้เกณฑ์ตามความต้องการและจำเป็นของแต่ละสถานศึกษา
2.6 บ้านพักนักเรียน ใช้เกณฑ์ตามความต้องการ จำเป็นและตามจำนวนนักเรียนที่มีความประสงค์ จะเข้าพัก


3. สนามกีฬา
สนามกีฬา หมายถึง สถานที่สำหรับจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและกิจกรรมเสริมหลักสูตร มีเกณฑ์ ดังนี้
- สนามบาสเกตบอล สร้างเฉพาะโรงเรียนที่เปิดสอนมัธยมศึกษา โดยใช้แผนจัดชั้นเรียนเป็นเกณฑ์
1. แผนจัดชั้นเรียน 6 – 12 ห้อง ควรมี 1 สนาม
2. แผนจัดชั้นเรียน 13 – 36 ห้อง ควรมี 2 สนาม
3. แผนจัดชั้นเรียน 37 ห้องขึ้นไป ควรมี 3 สนาม
- สนามฟุตบอล จัดให้ทุกโรงเรียนตามความเหมาะสม 1 โรงเรียนต่อ 1 สนาม
ลานกีฬาอเนกประสงค์ เป็นลานคอนกรีต (เป็นสนามวอลเล่ย์และสนามเซปัคตะกร้อขนาดมาตรฐาน) มีเสาพร้อมตาข่ายวอลเล่ย์บอลและเซปัคตะกร้อโดยจัดให้โรงเรียน
ทุกโรง ๆ ละ 1 สนาม ไม่เกิน 3 สนาม ดังนี้
แผนจัดชั้นเรียน 3 – 12 ห้อง ควรมี 1 สนาม
13 – 36 ห้อง ควรมี 2 สนาม
37 ห้องขึ้นไป ควรมี 3 สนาม
สนามเด็กเล่น จัดให้โรงเรียนระดับก่อนประถมศึกษาโรงเรียนละ 1 สนาม
4. ถังน้ำซีเมนต์ โดยมีเกณฑ์ ดังนี้
4.1 แผนจัดชั้นเรียน 6- 12 ห้อง ควรมี 1 ชุด
4.2 แผนจัดชั้นเรียน 13 -36 ห้อง ควรมี 2 ชุด
4.3 แผนจัดชั้นเรียน 37 ห้องขึ้นไป ควรมี 3 ชุด
5. ค่าก่อสร้างอื่น ๆ
5.1 ค่าก่อสร้างปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างอื่นที่ชำรุดเสียหายและที่ประสบอุบัติภัย จัดสรรงบประมาณให้แก่โรงเรียนที่มีอาคารเรียน อาคารประกอบฯ ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม และประสบอุบัติภัย
5.2 ค่าติดตั้งไฟฟ้า ประปา รั้ว เขื่อน ถนนและปรับปรุงบริเวณ จัดให้โรงเรียนที่มีความขาดแคลน และเดือดร้อน โรงเรียนที่ไม่มีไฟฟ้า ประปา รั้ว ถนน และใช้ในการปรับปรุงบริเวณโรงเรียนเพื่อให้เอื้อต่อการเรียนการสอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น