วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2552

การจัดการความรู้

ไม่ได้เข้าบล๊อกมานานเลย.....เนื่องจากไปอบรมนะขอรับ( สารพัดเหตุผลที่จะบอก)..อีกอย่างหนึ่งก็คือว่าช่วงนี้ใกล้สิ้นปีงบประมาณแล้วต้องตรวจสอบการเงิน พัสดุให้เรียบร้อยก่อนนะ.....ส่วน SP2 ก็กำลังมาอีก....พูดถึงแต่ SP2 ,CL มันแปลว่าหยังน้อพี่น้อง.......ข้อสอบนะจะบอกให้ เอาล่ะมาร่วมการจัดการความรู้กันเลยก็แล้วกันเน๊อะ
การจัดการความรู้ ( Knowledge Management )
ความรู้เกิดจากสมองของมนุษย์ได้มีการพัฒนาการมาตั้งแต่เด็กเล็กๆโดยเฉพาะเด็กทีอายุต่ำกว่า 3 ขวบ จะเป็นวัยที่มีการพัฒนาการทางสมองมากที่สุด
ความรู้ คือสารสนเทศที่ผ่านกระบวนการคิดเปรียบเทียบ เชื่อมโยงกับความรู้อื่นจนเกิดเป็นความเข้าใจและนำไปใช้ประโยชน์ในการสรุปและตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆลำดับชั้นความรู้ดังนี้
ข้อมูล( Data )-------สารสนเทศ ( Information)---------ความรู้( Knowledge )--------ปัญญา ( Wisdom )

การทำหน้าที่ของสมอง
ซีกซ้าย ทำหน้าที่ ช่วยในการใช้ภาษาพูด การคิดวิเคราะห์ การจัดลำดับก่อนหลัง การเรียนรู้ภาษาและคณิตศาสตร์
ซีกขวา ทำหน้าที่ ช่วยเรื่องภาษา ท่าทาง จินตนาการ ไหวพริบ ความคิดริเริ่ม

ประเภทของความรู้
1. ความรู้ฝังลึก ( Tacit Knowledge ) ความรู้แบบนามธรรม เช่น ทักษะในการทำงาน งานฝีมือ การคิดวิเคราะห์
2. ความรู้ชัดแจ้ง ( Explicit Knowledge ) ความรู้แบบรูปธรรม เป็นความรู้ที่รวบรวม ถ่ายทอดได้โดยผ่านวิธีการต่างๆเช่นการบันทึก หนังสือ

การจัดการความรู้กับ โมเดลปลาทู
โมเดลปลาทู เป็นโมเดลอย่างง่ายของสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้ ( สคส.) ที่เปรียบเทียบการจัดการความรู้เหมือนกับปลาทู ตัวหนึ่งที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
1. ส่วนหัวปลา ( Knowledge Vision—KV ) หมายถึง ส่วนที่เป็นเป้าหมาย วิสัยทัศน์หรือทิศทางของการจัดการความรู้ โดยก่อนที่จะจัดการความรู้ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเราจะทำ KM เพื่ออะไร
2. ส่วนตัวปลา ( Knowledge Sharing—KS ) หมายถึงส่วนของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งจะถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคคลและองค์กร
3. ส่วนหางปลา ( Knowledge Assets—KA ) หมายถึงส่วนของคลังความรู้ หรือขุมความรู้ที่อาจเก็บไว้ในรูปแบบต่างๆ
เป้าหมายของการจัดการความรู้
1. พัฒนางาน
2. พัฒนาคน
3. พัฒนาฐานความรู้องค์กรหรือหน่วยงาน

การคิดแบบหมวก 6 ใบ
Edward de Bono ได้ทำการคิดค้นเทคนิคการคิด six thinking hats ขึ้นมาเพื่อเป็นระบบความคิดที่ทำให้ผู้เรียนมีหลักในการจำแนกความคิดออกเป็น 6 ด้าน
1. หมวกสีขาว ใช้คำถามกระตุ้นให้เสนอข้อมูลที่เป็นจริง ข้อเท็จจริง
2. หมวกสีแดง ใช้คำถามกระตุ้นให้เกิดการอธิบายความรู้สึกต่อข้อมูล เรื่องราว เหตุการณ์
3. หมวกสีเหลือง ใช้คำถามกระตุ้นให้ค้นหาข้อดี จุดเด่น ของข้อมูล เรื่องราวเหตุการณ์
4. หมวกสีดำ ใช้คำถามที่ระบุสาเหตุของปัญหา ความไม่สมบูรณ์ ความล้มเหลว
5. หมวกสีเขียว ใช้คำถามที่เสนอแนะวิธีการแก้ไข การเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ ทางเลือกใหม่
6. หมวกสีฟ้า ใช้คำถามเพื่อการตัดสินใจหรือสรุปข้อมูล เช่นข้อคิด ความรู้ทีได้รับ

การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ( School Based Management : SBM )
ที่มาของการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เกิดจากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2545 มาตรา 39 กำหนดให้มีการกระจายอำนาจไปยังคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา ด้านวิชาการ งบประมาณ งานบริหารบุคคล และงานบริหารทั่วไป
รูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน
1. รูปแบบที่มีผู้บริหารโรงเรียนเป็นหลัก
2. รูปแบบที่มีครูเป็นหลัก
3. รูปแบบที่มีชุมชนเป็นหลัก โรงเรียนสังกัด สพฐ. ใช้รูปแบบนี้
4. รูปแบบที่มีครูและชุมชนเป็นหลัก

หลักของการบริหารจัดการโดยใช้สถานศึกษาเป็นฐาน
1. หลักการกระจายอำนาจ สำคัญที่สุด
2. หลักการบริหารตนเอง
3. หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วมของผุ้มีส่วนได้ส่วนเสีย
4. หลักการพัฒนาทั้งระบบ
5. หลักความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้
6. หลัการสร้างแรงจูงใจ

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวคราวหน้าจะมาบอก เกี่ยวกับ SP2 จ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น